โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ (Infective Endocarditis)
1. นิยาม
โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ (โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ, Infective Endocarditis, IE) คือ โรคที่เกิดจากการติดเชื้อของเชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย หรือเชื้อรา บริเวณเยื่อบุหัวใจ ทำให้เกิดการอักเสบ โรคนี้มักเกิดขึ้นที่ลิ้นหัวใจ โดยเฉพาะบริเวณที่มีการไหลเวียนของเลือดช้าหรือไหลย้อนกลับ และเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราจะเข้าสู่หัวใจผ่านทางกระแสเลือดแล้วไปติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจ โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อการทำงานของหัวใจ และหากไม่ได้รับการรักษาอาจถึงแก่ชีวิตได้
2. ลักษณะเฉพาะ
ลักษณะเฉพาะที่สำคัญของโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อมีดังนี้:
- การติดเชื้อแบคทีเรีย: ส่วนใหญ่เกิดจากแบคทีเรีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Streptococcus viridans, Staphylococcus aureus, Enterococcus เป็นสาเหตุหลัก
- การติดเชื้อในกระแสเลือด: เชื้อโรคเข้าสู่หัวใจผ่านทางกระแสเลือดและทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุหัวใจ ในกรณีนี้ เชื้อโรคมักจะเกาะติดได้ง่ายในบริเวณที่มีการไหลเวียนของเลือดช้าหรือไหลย้อนกลับ
- ความเสียหายของลิ้นหัวใจ: เมื่อแบคทีเรียติดเชื้อที่เยื่อบุหัวใจจะทำให้ลิ้นหัวใจเสียหาย ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ และอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว เสียงหัวใจผิดปกติ และการปิดของลิ้นหัวใจไม่สมบูรณ์
- ภาวะแทรกซ้อน: หากการติดเชื้อลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง ไต และปอด อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ได้
3. สาเหตุ
เชื้อโรคที่เป็นสาเหตุหลักของโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อมีดังนี้:
- สเตรปโตคอกคัส (Streptococcus species): โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Streptococcus viridans ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในช่องปากและทางเดินหายใจส่วนบน
- สตาฟิโลคอกคัส (Staphylococcus aureus): แบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังและทางเดินหายใจส่วนบน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Staphylococcus aureus ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
- แบคทีเรียในลำไส้ (Enterococci): แบคทีเรียที่พบในลำไส้ใหญ่ สามารถทำให้เกิดโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบได้
- แบคทีเรียและเชื้อราอื่นๆ: เชื้อรา เช่น Candida ก็สามารถเป็นสาเหตุของโรคนี้ได้เช่นกัน
เชื้อโรคเหล่านี้มักแพร่กระจายไปยังหัวใจผ่านทางกระแสเลือด และเงื่อนไขที่เพิ่มโอกาสในการติดเชื้อมีดังนี้:
- โรคหัวใจ: ผู้ป่วยที่มีโรคหัวใจอยู่แล้ว (เช่น โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ การปลูกถ่ายลิ้นหัวใจเทียม) มีโอกาสที่จะเป็นโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อสูงกว่า
- การติดเชื้อในกระแสเลือด: การติดเชื้อในกระแสเลือดที่เกิดจากการรักษาทางทันตกรรม การผ่าตัด หรือการฉีดยาทางหลอดเลือดดำ อาจทำให้เกิดโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อได้
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ: ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ (เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง โรคเบาหวาน ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาที่กดภูมิคุ้มกัน) อาจมีโอกาสเป็นโรคนี้ได้
- การใช้สารเสพติด: ผู้ที่ใช้สารเสพติดฉีดเข้าเส้นเลือดดำ มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อสูงขึ้น
4. อาการ
อาการของโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้ออาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ติดเชื้อ ความรุนแรงของการติดเชื้อ และสภาพภูมิคุ้มกันของผู้ป่วย อาการทั่วไปมีดังนี้:
- ไข้: ส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีไข้สูง (มากกว่า 38°C) ไข้มักเป็นอาการแรกของการติดเชื้อ
- น้ำหนักลด อ่อนเพลีย เหนื่อยล้า: อาการทั่วไปที่เกิดจากการติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยน้ำหนักลดลงและรู้สึกอ่อนเพลีย
- เสียงหัวใจผิดปกติ: เมื่อเกิดการอักเสบในหัวใจ ทำให้ลิ้นหัวใจเสียหาย เสียงหัวใจจะผิดปกติหรือได้ยินเสียงหวีด (heart murmur)
- หายใจลำบาก: อาจหายใจลำบากเนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลว
- ตุ่มหนอง (Osler's nodes): อาจมีตุ่มเล็กๆ เจ็บๆ ที่ปลายนิ้วมือและนิ้วเท้า
- เลือดออก: อาจมีจุดเลือดออกเล็กๆ ใต้เล็บ ซึ่งเรียกว่า splinter hemorrhages
- ข้อเท้าบวม: หากการติดเชื้อดำเนินไปเป็นเวลานาน อาจมีอาการทางระบบประสาท เช่น อาการของโรคหลอดเลือดสมอง หากลุกลามไปยังสมอง
5. วิธีการรักษาและผ่าตัด
การรักษาโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อสามารถแบ่งได้เป็น การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ และ การรักษาด้วยการผ่าตัด
5.1. การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะ
- การเลือกยาปฏิชีวนะ: การรักษาเบื้องต้นจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและใช้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำที่แรง ยาปฏิชีวนะที่ใช้หลักๆ ได้แก่ Penicillin, Vancomycin, Gentamicin และจะเลือกยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมตามชนิดของแบคทีเรียที่ติดเชื้อ
- ระยะเวลาในการรักษา: การรักษาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ขึ้นไป และต้องใช้ยาปฏิชีวนะจนกว่าการติดเชื้อจะหายสนิท
- การตรวจติดตาม: ในระหว่างการรักษา หากการติดเชื้อไม่หายหรืออาการของผู้ป่วยแย่ลง อาจต้องปรับเปลี่ยนยาปฏิชีวนะหรือพิจารณาใช้วิธีการรักษาอื่นๆ
5.2. การรักษาด้วยการผ่าตัด
- การผ่าตัดลิ้นหัวใจ: หากลิ้นหัวใจเสียหายหรือทำงานผิดปกติจากโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อ อาจต้องผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนหรือซ่อมแซมลิ้นหัวใจ อาจต้องปลูกถ่ายลิ้นหัวใจเทียมหรือผ่าตัดเอาส่วนที่ติดเชื้อออก
- การผ่าตัดอื่นๆ: หากการติดเชื้อลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ หรือก้อนเนื้อที่ติดเชื้อไปอุดตันหลอดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก อาจต้องทำการผ่าตัด
6. การพยากรณ์โรคและวิธีการดูแลรักษา
การพยากรณ์โรคของโรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่วินิจฉัยและเริ่มการรักษา หากเริ่มการรักษาได้เร็วจะสามารถป้องกันไม่ให้เกิดภาวะที่ร้ายแรงถึงชีวิตได้ แต่ถ้าการรักษาช้าหรือเกิดภาวะแทรกซ้อน อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
- การรักษาอย่างรวดเร็ว: หากได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว การติดเชื้อจะหายได้ดีในส่วนใหญ่
- ภาวะแทรกซ้อน: หากเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น โรคหลอดเลือดสมอง การทำงานของหัวใจลดลง และไตเสียหาย การพยากรณ์โรคจะแย่ลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดเชื้อลุกลามไปยังสมองอาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองได้
- การตรวจสุขภาพเป็นประจำ: หลังจากการรักษาจะต้องตรวจสุขภาพเป็นประจำเพื่อติดตามสภาพหัวใจและดำเนินการรักษาอย่างต่อเนื่อง
- การป้องกันการติดเชื้อ: อาจใช้ยาปฏิชีวนะป้องกันในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การรักษาทางทันตกรรม การผ่าตัด การล้างไต นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเสพติดและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- การมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ: การรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ การออกกำลังกายเป็นประจำ และการจัดการความเครียด มีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม
สรุป
โรคเยื่อบุหัวใจอักเสบติดเชื้อเป็นโรคที่ต้องได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา อาการมีความหลากหลายและอาจมีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง ดังนั้นการวินิจฉัยและรักษาในระยะเริ่มต้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การรักษาควรใช้ยาปฏิชีวนะและการผ่าตัดร่วมกัน และหลังจากการรักษาจะต้องดูแลรักษาและป้องกันอย่างต่อเนื่อง
ความคิดเห็น0